Special-JP* Chapter 5 (JP*) THE END
Special-JP* Chapter 5 (JP*) THE END
"มึงแน่ใจใช่ไหม กูไม่อยากทำเลยอ่ะ" หรอว่ะโจ้ มึงแน่ใจนะว่ามึงไม่อยากทำ แล้วมือที่กำลังลูบไปมาแถวท้องน้อยกูหมิ่นเหม่จะดึงผ้าเช็ดตัวกูออกนี่คือส้นตีนอะไร
"สัส กูขอความจริงใจหน่อยเถอะ" ผมกระทุ้งศอกไปที่ท้องมันแรงๆหนึ่งทีด้วยความหมั่นไส้ แม่งจ้องจะเอากูตั้งแต่กูเดินออกจากห้องน้ำอยู่แล้วยังมาทำปากดีพูดเป็นพระเอกละครช่องสามอีก ถีบสักทีดีไหมเนี่ย= =
"ความจริงใจมีให้เสมอครับ" จูบเบาๆที่หลังคอรับรู้ได้ถึงลมหายใจอุ่นที่กระทบมายังผิวกาย หรือให้พูดกันตรงๆก็คือรู้สึกเสียวนั่นแหละครับ
นี่นับเป็นครั้งแรกที่ทำให้ผมรู้สึกตื่นเต้นกับการมีเซ็กส์
ขนาดขึ้นครูครั้งแรกผมยังไม่รู้สึกแบบนี้เลย ให้ตายเถอะ
"ตัวมึงสั่น กลัวหรอ?? กูไม่ทำก็ได้นะ" ทั้งๆที่ปากมันพูดว่าไม่ทำแต่มือมันกลับทำตรงกันข้ามทั้งนั้น ไอ้โจ้กำลังพลิกตัวผมให้นอนราบกับเตียง พลางลูบไล้ บีบ จับ สัมผัสผมไปทั่วตัว
"เชี่ยยยเอ๊ย กูยกเลิกตอนนี้ทันไหม"
"ไม่ทันแล้วว่ะ"
"สัสแล้วมึงจะพูดให้ดูเป็นพระเอกทำเชี่ย อ่ะ..อื้อ" เสียงผมถูกกลืนหายไปพร้อมกับมือที่ยกขึ้นกอดคอมัน โจ้ยกขาข้างนึงของผมให้ชันตั้งฉากขึ้น มือมันค่อยๆลูบไล้ไปตามส่วนอ่อนไหว รูดรั้งปลุกปั้นให้มังกรในในร่มผ้าของผมลุกขึ้นตื่นจากการหลับใหล ก่อนจะแกล้งหยุดมือแล้วเขี่ยไปที่ปลายหัวอย่างหยอกล้อ
“ไอ้โจ้!! กูเสียว มึงจะทำอะไรก็เริ่มสักทีดิ!!!"
"กูไม่รีบ..." มันพูดอ่อยอิ่งพร้อมกับริมฝีปากและปลายจมูกที่คลอเคลียแถวๆซอกคอ
นี่แค่เล้าโล้มเองนะ หรือพูดอีกในนึงก็คือแค่เริ่มต้น แต่ทำไมแค่นี้ถึงทำให้ผมหายใจไม่ทั่วท้องได้ขนาดนี้
"ถุงยางล่ะ" กูไม่ยอมให้มึงมาถลุงประตูหลังแบบสดซิงไร้สิ่งป้องกันแน่ๆ
"ไม่ใส่ได้ไหม"
"ถ้าไม่ใส่ก็อด"
"เออ กูรู้แล้ว” โจ้พูดเสร็จก็เดินไปหยิบน้องดูเร็กกลิ่นแอบเปิ้ลสวมเข้าที่หัวมังกร แค่เห็นขนาดผมก็เริ่มรู้สึกเฟลไปแล้วแปดสิบเปอร์เซ็น แทบอยากจะตะโกนดังๆว่ากูไม่เอาแล้วนะ พอแล้ว มึงเลิกเถอะ กูหยอกเล่น
แต่ชาติเสือยังไว้ลายแล้วชาติชายอย่างผมล่ะ
เตรียมลาตายได้เลยครับ
โจ้เริ่มต้นการเล้าโลมอีกครั้ง มันแกล้งปัดผ่านยอดอกผมและลากนิ้วชี้ลงไปยังท้องน้อย ก่อนจะค่อยๆคลี่ปมผ้าเช็ดตัวออกแล้วแทรกตัวเข้ามาทาบทับบนตัวผม
"มึงแม่ง...น่าฟัดว่ะพี" ริมฝีปากหนาไล่จูบตั้งแต่ข้างแก้มลงมาที่ซอกคอ หน้าอก
"อ้ะ" แรงดูด ขบเม้นที่ยอดอกทำเอาผมสะดุ้งเป็นพักๆ จากนั้นไอ้คนตรงหน้ามันก็เริ่มปฏิบัติการเล่นกับน้องชายผมอย่างเต็มรูปแบบ
"เชี่ยโจ้ มึง...อื้ออออ..อ๊ะ.." ไม่บรรยายได้ไหมครับว่ามันทำอะไร รู้แต่ว่าสะโพกผมแอ่นขึ้นตามจังหวะที่ปากมันรูดขึ้นลง ก่อนที่มือผมจะพยายามเลื่อนลงไปจับที่ศีรษะมันแล้วดึงรั้งให้โจ้ถอนริมฝีปากจากส่วนนั้นก่อนที่ผมจะแตกคาปากมันแต่...
ไม่ทัน
"แฮ่ก แฮ่ก ขอโทษ" ผมรีบเอื้อมมือไปเช็ดที่ปากมันทันที แต่มันกลับกลืนลงไปทั้งอย่างนั้น
O_o
-/////////////////-
"มึงแม่งงงงงง..." เชี่ยโจ้มึงมันบ้า ทำไมชอบทำให้ใจกูเต้นแบบนี้ด้วยว่ะ มึงกลืนลงไปทำเชี่ยอะไร
"ไม่เอาแล้วได้ไหมอ่ะ" หมอนเหมินที่หนุนหัวอยู่แทบจะเอามาปิดมุดซ่อนลงไปทั้งหน้า
"โจ้...พีเหนื่อยแล้ว" อ้อนครับ มาแนวนี้คืออ้อนแล้ว ไม่อยากทำแล้วอ่ะ ใจผมเต้นแรงแทบจะกระเด็นออกมาจากอก
รู้แล้วว่ารู้สึกแบบไหน
ถ้าไม่ใช่ว่ารักจะไม่รู้สึกตื่นเต้นไปกับทุกสัมผัสแบบนี้เลย
ไม่มีทางแน่ๆ
กะอีแค่กลืนแบบนั้นผู้หญิงที่ผมเคยนอนด้วยมันก็เคยทำแต่ผมกลับไม่รู้สึกดีใจแบบนี้เลย
"ไม่ทันแล้วพี" มันพูดพร้อมกับความรู้สึกเย็นวาบของนิ้วที่สอดเข้ามาทางช่องทางด้านหลัง มือหนาเปลี่ยนจากบีบนวดตรงสะโพกย้ายมาจับที่น้องชายที่สงบนิ่งลงไปในรอบแรกให้ตื่นขึ้นมาอีกรอบ
จาก หนึ่งนิ้วที่ชักเข้าออก
เพิ่มเป็นสอง
"อ้ะ..อ้า.." มะ..ไม่ไหว เสียวเกินไป ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ไหนใครมันบอกว่าเจ็บว่ะ กูยังไม่รู้สึกว่ามันเจ็บเลย นอกจากความเสียวที่มันแล่นริ้วๆเข้ามายังท้องน้อยแบบ..นะ..นี้!!! เชี่ยยยยยยยยยยยยยย
"เชี่ยโจ้..พ่อมึงตายหรอ อย่าพึ่งยัดเข้ามาดิไอ้ควายยยย" เชี่ยเอ๊ยเมื่อกี้กูยังบอกว่าเสียวอยู่เลยแต่ตอนนี้เจ็บฉิบหาย น้ำตาผมปริ่มแทบทะลักออกมาเป้็นสายเลือดเลยด้วยซ้ำ
"กูเอาเข้ามาแค่นิดเดียวเอง"
"นิดเดียวพ่องงงมึงดิ เอาออกไปเลย เจ็บอ่ะ..ฮึก..ฮือ..เจ็บ.." ร้องไห้แม่งเลย ไม่สนแล้วว่าใครจะมองว่าผมอ่อนแอ แต่มันเจ็บๆจริงๆนะครับ
"พี..." คำพูดปลอบประโลมพร้อมสัมผัส เบาๆที่ริมฝีปาก ลิ้นร้อนแทรกเข้ามาทั้งอ่อนหวานและนุ่มนวล โจ้รอจนผมรู้สึกพร้อมก่อนจะเริ่มขยับสะโพกเบาๆ
"อื้อ..อื้อ" จังหวะที่สะโพกเริ่มขยับ เสียงครางกระเส่าก็ดังขึ้น ความเจ็บปวดหายไปพร้อมกับความเสียวที่เข้ามาแทนที่ สายตาที่ผมส่งไปให้เต็มไปด้วยคำถาม มันรักผมจริงหรือเปล่า ที่เคยบอกก่อนหน้านี้มันแน่ใจใช่ไหมว่าคนนั้นที่มันรักคือ...
"โจ้รักพี"
“อ้า....” รอบแรกผ่านไปพร้อมกับเสียงหอบหายใจแฮ่ก คำรักที่มันบอกผมก่อนจะถึงจุดทำเอาผมหน้าแดงไปไม่ถูก
"ถอดออกไปได้แล้ว หนัก" ผมผลักหัวไอ้โจ้ที่ยังนอนหอบหายใจรดต้นคอผมอยู่
"ไม่..."
"กูเจ็บโจ้"
"ไหนๆก็เจ็บแล้ว เอาให้มันเจ็บทีเดียวเลยดีกว่าเนอะ" ยิ้มกวนตีนพร้อมแรงขยับเบาๆที่สะโพก
"แต่มึงควรจะเอาถุงยากออกก่อน" ผมต่อรองมันทันทีเพื่อที่ไอ้หมาโง่ตรงหน้ามันจะได้มัวแต่เดินไปหยิบถุงยางอันใหม่แล้วสุดท้ายผมจะได้รอดพ้นจากวิบากกรรมที่กำลังเผชิญ
“อ๊ะ...” ผมจิกไหล่ไอ้โจ้ทั้งสองข้างตอนที่มันกำลังดึงส่วนนั้นของตัวเองออก ความรู้สึกโล่งเข้ามาแทนที่ได้ไม่นานก็ต้องรู้สึกอึดอัดอีกรอบ
“อึก...โจ้มึงเอาเข้ามาอีกทำไมเนี่ยยยยย”
“ก็มึงบอกให้กูเอาถุงยางออกก่อน”
“ไม่ได้หมายความว่า อ๊ะ..อา..” อย่างนั้นนนน ไอ้ควายเอ๊ย!!!!!!!!
สุดท้ายผมก็ตกเป็นของมันทั้งหมดสามรอบถ้วน ตื่นมาตอนเช้านี้ลุกจากที่นอนแทบไม่ได้ ปวดระบบไปหมดทั้งหลังและสะโพก ผมได้ส่งสายตาและใช้ฝ่าเท้าถีบให้คนข้างตัวลุกขึ้นมารับผิดชอบ เพราะผมไม่ใช่พวกที่นิสัยดี มีอีโก้สูงที่จะทำตัวแข็งแกร่งทั้งที่ประตูหลังพึ่งโดนถลุงหรอก ใช่เชี่ยโจ้เนี่ยแหละ ให้มันพาผมไปอาบน้ำ แต่งตัว ถามว่าอายไหม หึ ไม่อ่ะ มีเหมือนกัน อีกอย่างเห็นกันมาแล้วทั้งคืนไม่รู้จะอายอะไร สุดท้ายก็ให้มันหาข้าวมาให้กิน ไอ้โจ้มันก็ดูมีความสุขกับการที่ผมจิกหัวใช้ดี ถ้างั้นก็ปล่อยเลยตามเลยล่ะกัน
"โจ้...อยากกินไอติม"
"ไม่ได้"
"อยากกิน"ผมก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าเป็นโรคอะไรเวลาไม่สบายทีไรอยากกินของเย็นตลอด
"ถ้างั้นขอบุหรี่ตัวนึง เอาที่มึงดูดอยู่ก็ได้" ไม่อยากใช้แม่งหรอก แต่ตอนนี้ลุกไม่ไหว ขยับตัวไม่ได้ ร้าวไปหมดทั้งสะโพก แถมไม่สบายอีก จะหยิบจะจับอะไรก็เมื่อยไปหมด
"มึงไม่สบายอยู่นะพี"
"แค่เป็นหวัดน่า ไม่เชื่อลองเอาลิ้นมาวัดในปากกูดูดิ" ผมยักคิ้วเบาๆให้หมาโง่ที่กำลังหูตั้งวิ่งหางกระดิกมาหาผมที่นั่งพิงหัวเตียงอยู่
"มึงนี่มัน..." คำพูดมันกลืนหายไปกับจูบที่ผมมอบให้ ลิ้นเย็นๆที่เข้ามาในโพรงปาก ทำให้รู้สึกสบายและได้กลิ่นนิโคตินอ่อนๆ
"อยากกินไอติม กูแช่ไว้ในช่องฟิสอ่ะเอามาให้หน่อย..."
"แต่มึงมีไข้.."
"ลดแล้ว..อื้มม..แดกลิ้นกูเลยไหมโจ้" แม่งดูดเป็นไอติมเลย- -"
"ลดบ้าอะไรในปากยังร้อนอยู่เลย..."
"อยากกิน...." ไม่รู้ว่าไปเอาวิธีอ่อยแล้วทำเสียงอ้อนแบบนี้มาจากไหน แต่ผมก็ทำไปแล้ว กับไอ้ท่าทาง เอาปากไปคลอเคลียหูไอ้โจ้แล้วงับเบาๆแบบนี้
"มึงนี้มันดื้อจริงๆ"
ผมมองไอ้โจ้เดินหายไปก่อนจะกลับมาพร้อมไอ้ติมยี่ห้อดังรสช็อคโกแลตที่ผมแช่ไว้ตั้งแต่คืนวาน
^_____^
"ไม่ต้องมายิ้มเลย..คิดว่ากูจะให้มึงกินง่ายๆงั้นสิ"
"แล้วมึงจะให้กูกินท่ายากรึไง เร็ว อยากกินแล้ว.."
"ให้กินห้าคำนะ มึงไม่สบาย"
"สิบ" กูไม่ขอเยอะแค่มากกว่ามึงเท่านึงพอ
"เจ็ด"
"แปดล่ะกัน นี่ไม่ได้บอกผ่านเลยนะเนี่ย"
“เฮ้ออ มึงนี่มันจริงๆเลยว่ะพี” ไอ้โจ้ส่ายหัวให้ผมอย่างระอา มันนั่งป้อนไอติมผมจนหมดถ้วยนั่นแหละ คิดหรอว่าคนอย่าผมจะยอมหมาหน้าโง่อย่างมัน กินเสร็จพ่อเจ้าประคุณก็มีข้อต่อรองที่ฟังดูยังไงๆมันก็ได้ประโยชน์เต็มประตู
“ข้อต่อรองมึงมันดูปัญญาอ่อนไปนะ”
“ปัญญาอ่อนตรงไหนแค่บอกว่ามึงหายดีแล้วไปเที่ยวกันแค่เนี่ย หรือมึงจะเปลี่ยนก็ได้นะ”
“เปลี่ยนเป็นอะไร”
“จูบกู เช้า เย็น ก่อนนอน” มันคุ้มกันไหม่เนี่ย
“เอาดิ”
“ห้ะ” โจ้ทำหน้าตกใจที่อยู่ๆผมตอบรับมันง่ายๆ มันรีบกระโดดขึ้นเตียงแล้วดึงผมไปกอดแน่น ปากบ่นพึมพำอะไรสักอย่าง
“อะไรของมึงเนี่ยโจ้ กูฟังไม่รู้เรื่อง”
“มึงรักกูแล้วใช่ไหม”
“....” ใช่รักแล้ว
“ที่มึงเงียบเพราะว่าอะไรนะพี กูพอมีโอกาสเข้าไปอยู่ในใจมึงได้หรือเปล่า” เสียงสั่นเครือที่กระซิบอยู่ข้างหู ผมเคยได้ยินแต่รักที่ไม่หวังผลตอบแทน แต่ทุกคนก็รู้อยู่แล้วว่าเรื่องแบบนั้นมันมีอยู่น้อยมากบนโลกใบนี้สำหรับคู่รัก เรารักใคร เราก็ย่อมหวังให้เขามารักกับเราด้วย เหมือนกับที่โจ้มันหวังอยากให้ผมรักกันเหมือนที่มันรักผม
“โจ้ เรามาทำกันไหม” ตอนนี้ผมพูดไม่อายปากเลยว่าผมอยากทำกับมันมาก อยากนอนกอดมัน อย่างจูบ อยากสัมผัสอีกครั้ง อยากย้ำกับตัวเองอีกสักที และคราวนี้ผมจะไม่หนีหัวใจตัวเองอีกแล้ว
“แต่มึงไม่สบาย...”
“จะทำไหม?? ถ้าไม่ทำก็ไม่ต้องทำอีกตลอดชีวิต!!!” กูให้ท่าขนาดนี้ยังมีหน้ามาปฏิเสธกูอีก
“ทำ” จูบดูดดื่มส่งลงมาพร้อมความรู้สึกหลายหลาย ผมก็จะรับรู้ได้ถึงความอบอุ่นที่ควานอยู่ในโพรงปาก
“อื้อ...” ความรู้สึกวาบหวิวเลื่อนตามจุดที่ริมฝีปากสัมผัส ซอกคอ ใบหู หน้าอก และท้องน้อยก่อนจะเลื่อนต่ำลงไปเรื่อยๆ
“อ้า..โจ้” ทำไมผมถึงรู้สึกดีขนาดนี้นะ ไม่เคยรู้สึกมากมายขนาดนี้มากก่อน กางเกงบ๊อกเซอร์ถูกถอดออกอย่างรวดเร็ว หมอนใบเล็กถูกสอดเข้ามาตรงสะโพก ขาข้างนึงถูกยกขึ้นให้เกาะที่เอวนิ้วเรียวถูกสอดเข้ามาพร้อมของเหลวเย็น ผมไม่ในโง่ถึงขนาดที่ผมไม่รู้หรอกว่าสิ่งที่สอดเข้ามาพร้อมกันคืออะไร
“อื้อ..อื้อ..อ๊ะ” ความรู้สึกเสียวแล่นเข้ามาที่ท้องน้อยทันทีที่ไอ้โจ้กดลงที่บางจุด
“ตรงนี้สินะ”
“อ๊ะ..อ๊า..จะ..โจ้..เข้ามาเถอะ..กูไม่ไหวแล้ว..อื้อ..อื้ออออ เบาๆ” ความรู้สึกที่ถูกสิ่งนั้นชำแรกผ่านเข้ามามันเต็มไปด้วยความเจ็บปวด ถึงไม่ได้เจ็บมากเหมือนครั้งแรก แต่ก็ยังสัมผัสได้ถึงความเจ็บอยู่ดี
“เบาๆ..อื้อ” มือผมถูกยกขึ้นยันหน้าท้องโจ้ไว้เพื่อบกคนตรงหน้าให้ค่อยๆแทรกเข้ามาเบาๆ
“ครับ” ผมรู้ว่าโจ้ก็อดทนไม่น้อย สีหน้าเกร็งกับเหงื่อที่ไหลอยู่ที่ไรผม ทำเอาผมอดไม่ได้ที่จะเช็ดให้มัน ก่อนที่รอยยิ้มเล็กๆจะผุดขึ้นที่ริมฝีปาก แล้วริมฝีปากนั่นแหละที่ก้มลงมาจูบที่แก้มผม
“พีมึงกอดคอกูดิ” เรื่องอะไรเล่าถ้าผมกอดคอมันความรู้สึกแนบแน่นมันจะเข้ามามากกว่าเดิม ขอทำใจแป๊บนึงได้ไหมเห็นหน้าหื่นๆของมึงแล้วกูกลัว
“อย่าเบือนหน้าหนีดิพี จับบ่าโจ้ไว้ก็ได้ กูจะขยับแล้วนะ” แล้วจะบอกกูทำไมว่ะ มึงจะขยับก็ขยับเลย ไม่ต้องมาพูดไม่ต้องมาบอก
“อ๊ะ..อ๊า” แรงขยับที่สะโพกทำให้ผมต้องเอื้อมมือไปกอดคอมันไว้อย่างช่วยไม่ได้
“อ่า..”
“อื้อ อื้อ ห้ามมองนะ” ผมยกมือขึ้นปิดสายตาไอ้โจ้ที่ส่งมาให้ผมแต่มันดันเล่นงับนิ้วผมซะงั้นแถมมันยัง
-////////////////-
ดูดนิ้วผมด้วย
ทำไงดี ผมรักมันแล้วจริงๆ ถอนตัวไม่ขึ้นแล้ว
“กูรักมึงโจ้”
O_o
“อ้าาาาห์..”
=_____=
“เชี่ยโจ้!!! มึงแม่งห่วยแตก!!! เอาออกไปเลย” กูจะถึงอยู่แล้วแต่มึงดันแตกขึ้นมากลางคันเนี่ยนะ
“ขอโทษ”
“ขอโทษพ่องงมึงสิ ก่อนหน้านี้ไม่เห็นจะห่วยแบบนี้เลย” แถมแตกแบบไม่ใส่ถุงยางอีก โฮยยย ชีวิตกู= =
“ก็มันดีใจง่ะ ยิ่งตอนที่มึงกอดคอกูแล้วบอกรักกูด้วยสายตาเว้าวอนแบบนั้น กูเขินนนนอ่ะพี” สายตาเว้าวอนอะไรกูยังไม่ได้ส่งไปให้มึงเลยเหอะ
“เขินส้นตีนอะไร ลุกออกไปได้แล้ว”
“ขอแก้ตัวได้ไหม”
“แก้ตงแก้ตัวอะไร ตอนที่มึงถึงกูก็ไปต่อไม่ติดแล้วเถอะ ออกไปได้แล้ว อยากอาบน้ำ”
“โถว พี” ผลั่ก!!! บอกดีๆไม่ชอบ ชอบให้กูถีบตกเตียงก่อนสินะ “วันหลังถ้ามึงทำห่วยขนาดนี้ก็บอกกูดิ เดี๋ยวกูทำให้ดู อ่อนฉิบหาย อย่ามาเกาะเอวกู ปล่อย!!! เชี่ยโจ้ใจหมา กูบอกให้ปล่อยไงเล่า!!!!”
“กูรักมึงพี...”
“กูรู้แล้ววว ปล่อยกูววววววววววววว!!!”
จริงๆผมไม่น่าพลาดไปมีอะไรกับคนจังไรอย่างมันเลยใช่ไหมครับ แต่ก็ช่วยไม่ได้นี่น่า ผมรักมันไปแล้วนิ คนบ้าๆที่เป็นเพื่อนร่วมห้องผมคนนี้
เรื่องราวความรักของผมกับมันเริ่มต้นจากสิ่งที่เห็น ทุกวันนี้พวกเราขึ้นปีสามแล้วก็ยังมีทะเลาะกันบ้างเป็นเรื่องปกติ แต่สิ่งหนึ่งที่ผมกับมันรู้อยู่เต็มหัวใจคือ เรารักกัน
"มึงแน่ใจใช่ไหม กูไม่อยากทำเลยอ่ะ" หรอว่ะโจ้ มึงแน่ใจนะว่ามึงไม่อยากทำ แล้วมือที่กำลังลูบไปมาแถวท้องน้อยกูหมิ่นเหม่จะดึงผ้าเช็ดตัวกูออกนี่คือส้นตีนอะไร
"สัส กูขอความจริงใจหน่อยเถอะ" ผมกระทุ้งศอกไปที่ท้องมันแรงๆหนึ่งทีด้วยความหมั่นไส้ แม่งจ้องจะเอากูตั้งแต่กูเดินออกจากห้องน้ำอยู่แล้วยังมาทำปากดีพูดเป็นพระเอกละครช่องสามอีก ถีบสักทีดีไหมเนี่ย= =
"ความจริงใจมีให้เสมอครับ" จูบเบาๆที่หลังคอรับรู้ได้ถึงลมหายใจอุ่นที่กระทบมายังผิวกาย หรือให้พูดกันตรงๆก็คือรู้สึกเสียวนั่นแหละครับ
นี่นับเป็นครั้งแรกที่ทำให้ผมรู้สึกตื่นเต้นกับการมีเซ็กส์
ขนาดขึ้นครูครั้งแรกผมยังไม่รู้สึกแบบนี้เลย ให้ตายเถอะ
"ตัวมึงสั่น กลัวหรอ?? กูไม่ทำก็ได้นะ" ทั้งๆที่ปากมันพูดว่าไม่ทำแต่มือมันกลับทำตรงกันข้ามทั้งนั้น ไอ้โจ้กำลังพลิกตัวผมให้นอนราบกับเตียง พลางลูบไล้ บีบ จับ สัมผัสผมไปทั่วตัว
"เชี่ยยยเอ๊ย กูยกเลิกตอนนี้ทันไหม"
"ไม่ทันแล้วว่ะ"
"สัสแล้วมึงจะพูดให้ดูเป็นพระเอกทำเชี่ย อ่ะ..อื้อ" เสียงผมถูกกลืนหายไปพร้อมกับมือที่ยกขึ้นกอดคอมัน โจ้ยกขาข้างนึงของผมให้ชันตั้งฉากขึ้น มือมันค่อยๆลูบไล้ไปตามส่วนอ่อนไหว รูดรั้งปลุกปั้นให้มังกรในในร่มผ้าของผมลุกขึ้นตื่นจากการหลับใหล ก่อนจะแกล้งหยุดมือแล้วเขี่ยไปที่ปลายหัวอย่างหยอกล้อ
“ไอ้โจ้!! กูเสียว มึงจะทำอะไรก็เริ่มสักทีดิ!!!"
"กูไม่รีบ..." มันพูดอ่อยอิ่งพร้อมกับริมฝีปากและปลายจมูกที่คลอเคลียแถวๆซอกคอ
นี่แค่เล้าโล้มเองนะ หรือพูดอีกในนึงก็คือแค่เริ่มต้น แต่ทำไมแค่นี้ถึงทำให้ผมหายใจไม่ทั่วท้องได้ขนาดนี้
"ถุงยางล่ะ" กูไม่ยอมให้มึงมาถลุงประตูหลังแบบสดซิงไร้สิ่งป้องกันแน่ๆ
"ไม่ใส่ได้ไหม"
"ถ้าไม่ใส่ก็อด"
"เออ กูรู้แล้ว” โจ้พูดเสร็จก็เดินไปหยิบน้องดูเร็กกลิ่นแอบเปิ้ลสวมเข้าที่หัวมังกร แค่เห็นขนาดผมก็เริ่มรู้สึกเฟลไปแล้วแปดสิบเปอร์เซ็น แทบอยากจะตะโกนดังๆว่ากูไม่เอาแล้วนะ พอแล้ว มึงเลิกเถอะ กูหยอกเล่น
แต่ชาติเสือยังไว้ลายแล้วชาติชายอย่างผมล่ะ
เตรียมลาตายได้เลยครับ
โจ้เริ่มต้นการเล้าโลมอีกครั้ง มันแกล้งปัดผ่านยอดอกผมและลากนิ้วชี้ลงไปยังท้องน้อย ก่อนจะค่อยๆคลี่ปมผ้าเช็ดตัวออกแล้วแทรกตัวเข้ามาทาบทับบนตัวผม
"มึงแม่ง...น่าฟัดว่ะพี" ริมฝีปากหนาไล่จูบตั้งแต่ข้างแก้มลงมาที่ซอกคอ หน้าอก
"อ้ะ" แรงดูด ขบเม้นที่ยอดอกทำเอาผมสะดุ้งเป็นพักๆ จากนั้นไอ้คนตรงหน้ามันก็เริ่มปฏิบัติการเล่นกับน้องชายผมอย่างเต็มรูปแบบ
"เชี่ยโจ้ มึง...อื้ออออ..อ๊ะ.." ไม่บรรยายได้ไหมครับว่ามันทำอะไร รู้แต่ว่าสะโพกผมแอ่นขึ้นตามจังหวะที่ปากมันรูดขึ้นลง ก่อนที่มือผมจะพยายามเลื่อนลงไปจับที่ศีรษะมันแล้วดึงรั้งให้โจ้ถอนริมฝีปากจากส่วนนั้นก่อนที่ผมจะแตกคาปากมันแต่...
ไม่ทัน
"แฮ่ก แฮ่ก ขอโทษ" ผมรีบเอื้อมมือไปเช็ดที่ปากมันทันที แต่มันกลับกลืนลงไปทั้งอย่างนั้น
O_o
-/////////////////-
"มึงแม่งงงงงง..." เชี่ยโจ้มึงมันบ้า ทำไมชอบทำให้ใจกูเต้นแบบนี้ด้วยว่ะ มึงกลืนลงไปทำเชี่ยอะไร
"ไม่เอาแล้วได้ไหมอ่ะ" หมอนเหมินที่หนุนหัวอยู่แทบจะเอามาปิดมุดซ่อนลงไปทั้งหน้า
"โจ้...พีเหนื่อยแล้ว" อ้อนครับ มาแนวนี้คืออ้อนแล้ว ไม่อยากทำแล้วอ่ะ ใจผมเต้นแรงแทบจะกระเด็นออกมาจากอก
รู้แล้วว่ารู้สึกแบบไหน
ถ้าไม่ใช่ว่ารักจะไม่รู้สึกตื่นเต้นไปกับทุกสัมผัสแบบนี้เลย
ไม่มีทางแน่ๆ
กะอีแค่กลืนแบบนั้นผู้หญิงที่ผมเคยนอนด้วยมันก็เคยทำแต่ผมกลับไม่รู้สึกดีใจแบบนี้เลย
"ไม่ทันแล้วพี" มันพูดพร้อมกับความรู้สึกเย็นวาบของนิ้วที่สอดเข้ามาทางช่องทางด้านหลัง มือหนาเปลี่ยนจากบีบนวดตรงสะโพกย้ายมาจับที่น้องชายที่สงบนิ่งลงไปในรอบแรกให้ตื่นขึ้นมาอีกรอบ
จาก หนึ่งนิ้วที่ชักเข้าออก
เพิ่มเป็นสอง
"อ้ะ..อ้า.." มะ..ไม่ไหว เสียวเกินไป ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ไหนใครมันบอกว่าเจ็บว่ะ กูยังไม่รู้สึกว่ามันเจ็บเลย นอกจากความเสียวที่มันแล่นริ้วๆเข้ามายังท้องน้อยแบบ..นะ..นี้!!! เชี่ยยยยยยยยยยยยยย
"เชี่ยโจ้..พ่อมึงตายหรอ อย่าพึ่งยัดเข้ามาดิไอ้ควายยยย" เชี่ยเอ๊ยเมื่อกี้กูยังบอกว่าเสียวอยู่เลยแต่ตอนนี้เจ็บฉิบหาย น้ำตาผมปริ่มแทบทะลักออกมาเป้็นสายเลือดเลยด้วยซ้ำ
"กูเอาเข้ามาแค่นิดเดียวเอง"
"นิดเดียวพ่องงงมึงดิ เอาออกไปเลย เจ็บอ่ะ..ฮึก..ฮือ..เจ็บ.." ร้องไห้แม่งเลย ไม่สนแล้วว่าใครจะมองว่าผมอ่อนแอ แต่มันเจ็บๆจริงๆนะครับ
"พี..." คำพูดปลอบประโลมพร้อมสัมผัส เบาๆที่ริมฝีปาก ลิ้นร้อนแทรกเข้ามาทั้งอ่อนหวานและนุ่มนวล โจ้รอจนผมรู้สึกพร้อมก่อนจะเริ่มขยับสะโพกเบาๆ
"อื้อ..อื้อ" จังหวะที่สะโพกเริ่มขยับ เสียงครางกระเส่าก็ดังขึ้น ความเจ็บปวดหายไปพร้อมกับความเสียวที่เข้ามาแทนที่ สายตาที่ผมส่งไปให้เต็มไปด้วยคำถาม มันรักผมจริงหรือเปล่า ที่เคยบอกก่อนหน้านี้มันแน่ใจใช่ไหมว่าคนนั้นที่มันรักคือ...
"โจ้รักพี"
“อ้า....” รอบแรกผ่านไปพร้อมกับเสียงหอบหายใจแฮ่ก คำรักที่มันบอกผมก่อนจะถึงจุดทำเอาผมหน้าแดงไปไม่ถูก
"ถอดออกไปได้แล้ว หนัก" ผมผลักหัวไอ้โจ้ที่ยังนอนหอบหายใจรดต้นคอผมอยู่
"ไม่..."
"กูเจ็บโจ้"
"ไหนๆก็เจ็บแล้ว เอาให้มันเจ็บทีเดียวเลยดีกว่าเนอะ" ยิ้มกวนตีนพร้อมแรงขยับเบาๆที่สะโพก
"แต่มึงควรจะเอาถุงยากออกก่อน" ผมต่อรองมันทันทีเพื่อที่ไอ้หมาโง่ตรงหน้ามันจะได้มัวแต่เดินไปหยิบถุงยางอันใหม่แล้วสุดท้ายผมจะได้รอดพ้นจากวิบากกรรมที่กำลังเผชิญ
“อ๊ะ...” ผมจิกไหล่ไอ้โจ้ทั้งสองข้างตอนที่มันกำลังดึงส่วนนั้นของตัวเองออก ความรู้สึกโล่งเข้ามาแทนที่ได้ไม่นานก็ต้องรู้สึกอึดอัดอีกรอบ
“อึก...โจ้มึงเอาเข้ามาอีกทำไมเนี่ยยยยย”
“ก็มึงบอกให้กูเอาถุงยางออกก่อน”
“ไม่ได้หมายความว่า อ๊ะ..อา..” อย่างนั้นนนน ไอ้ควายเอ๊ย!!!!!!!!
สุดท้ายผมก็ตกเป็นของมันทั้งหมดสามรอบถ้วน ตื่นมาตอนเช้านี้ลุกจากที่นอนแทบไม่ได้ ปวดระบบไปหมดทั้งหลังและสะโพก ผมได้ส่งสายตาและใช้ฝ่าเท้าถีบให้คนข้างตัวลุกขึ้นมารับผิดชอบ เพราะผมไม่ใช่พวกที่นิสัยดี มีอีโก้สูงที่จะทำตัวแข็งแกร่งทั้งที่ประตูหลังพึ่งโดนถลุงหรอก ใช่เชี่ยโจ้เนี่ยแหละ ให้มันพาผมไปอาบน้ำ แต่งตัว ถามว่าอายไหม หึ ไม่อ่ะ มีเหมือนกัน อีกอย่างเห็นกันมาแล้วทั้งคืนไม่รู้จะอายอะไร สุดท้ายก็ให้มันหาข้าวมาให้กิน ไอ้โจ้มันก็ดูมีความสุขกับการที่ผมจิกหัวใช้ดี ถ้างั้นก็ปล่อยเลยตามเลยล่ะกัน
"โจ้...อยากกินไอติม"
"ไม่ได้"
"อยากกิน"ผมก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าเป็นโรคอะไรเวลาไม่สบายทีไรอยากกินของเย็นตลอด
"ถ้างั้นขอบุหรี่ตัวนึง เอาที่มึงดูดอยู่ก็ได้" ไม่อยากใช้แม่งหรอก แต่ตอนนี้ลุกไม่ไหว ขยับตัวไม่ได้ ร้าวไปหมดทั้งสะโพก แถมไม่สบายอีก จะหยิบจะจับอะไรก็เมื่อยไปหมด
"มึงไม่สบายอยู่นะพี"
"แค่เป็นหวัดน่า ไม่เชื่อลองเอาลิ้นมาวัดในปากกูดูดิ" ผมยักคิ้วเบาๆให้หมาโง่ที่กำลังหูตั้งวิ่งหางกระดิกมาหาผมที่นั่งพิงหัวเตียงอยู่
"มึงนี่มัน..." คำพูดมันกลืนหายไปกับจูบที่ผมมอบให้ ลิ้นเย็นๆที่เข้ามาในโพรงปาก ทำให้รู้สึกสบายและได้กลิ่นนิโคตินอ่อนๆ
"อยากกินไอติม กูแช่ไว้ในช่องฟิสอ่ะเอามาให้หน่อย..."
"แต่มึงมีไข้.."
"ลดแล้ว..อื้มม..แดกลิ้นกูเลยไหมโจ้" แม่งดูดเป็นไอติมเลย- -"
"ลดบ้าอะไรในปากยังร้อนอยู่เลย..."
"อยากกิน...." ไม่รู้ว่าไปเอาวิธีอ่อยแล้วทำเสียงอ้อนแบบนี้มาจากไหน แต่ผมก็ทำไปแล้ว กับไอ้ท่าทาง เอาปากไปคลอเคลียหูไอ้โจ้แล้วงับเบาๆแบบนี้
"มึงนี้มันดื้อจริงๆ"
ผมมองไอ้โจ้เดินหายไปก่อนจะกลับมาพร้อมไอ้ติมยี่ห้อดังรสช็อคโกแลตที่ผมแช่ไว้ตั้งแต่คืนวาน
^_____^
"ไม่ต้องมายิ้มเลย..คิดว่ากูจะให้มึงกินง่ายๆงั้นสิ"
"แล้วมึงจะให้กูกินท่ายากรึไง เร็ว อยากกินแล้ว.."
"ให้กินห้าคำนะ มึงไม่สบาย"
"สิบ" กูไม่ขอเยอะแค่มากกว่ามึงเท่านึงพอ
"เจ็ด"
"แปดล่ะกัน นี่ไม่ได้บอกผ่านเลยนะเนี่ย"
“เฮ้ออ มึงนี่มันจริงๆเลยว่ะพี” ไอ้โจ้ส่ายหัวให้ผมอย่างระอา มันนั่งป้อนไอติมผมจนหมดถ้วยนั่นแหละ คิดหรอว่าคนอย่าผมจะยอมหมาหน้าโง่อย่างมัน กินเสร็จพ่อเจ้าประคุณก็มีข้อต่อรองที่ฟังดูยังไงๆมันก็ได้ประโยชน์เต็มประตู
“ข้อต่อรองมึงมันดูปัญญาอ่อนไปนะ”
“ปัญญาอ่อนตรงไหนแค่บอกว่ามึงหายดีแล้วไปเที่ยวกันแค่เนี่ย หรือมึงจะเปลี่ยนก็ได้นะ”
“เปลี่ยนเป็นอะไร”
“จูบกู เช้า เย็น ก่อนนอน” มันคุ้มกันไหม่เนี่ย
“เอาดิ”
“ห้ะ” โจ้ทำหน้าตกใจที่อยู่ๆผมตอบรับมันง่ายๆ มันรีบกระโดดขึ้นเตียงแล้วดึงผมไปกอดแน่น ปากบ่นพึมพำอะไรสักอย่าง
“อะไรของมึงเนี่ยโจ้ กูฟังไม่รู้เรื่อง”
“มึงรักกูแล้วใช่ไหม”
“....” ใช่รักแล้ว
“ที่มึงเงียบเพราะว่าอะไรนะพี กูพอมีโอกาสเข้าไปอยู่ในใจมึงได้หรือเปล่า” เสียงสั่นเครือที่กระซิบอยู่ข้างหู ผมเคยได้ยินแต่รักที่ไม่หวังผลตอบแทน แต่ทุกคนก็รู้อยู่แล้วว่าเรื่องแบบนั้นมันมีอยู่น้อยมากบนโลกใบนี้สำหรับคู่รัก เรารักใคร เราก็ย่อมหวังให้เขามารักกับเราด้วย เหมือนกับที่โจ้มันหวังอยากให้ผมรักกันเหมือนที่มันรักผม
“โจ้ เรามาทำกันไหม” ตอนนี้ผมพูดไม่อายปากเลยว่าผมอยากทำกับมันมาก อยากนอนกอดมัน อย่างจูบ อยากสัมผัสอีกครั้ง อยากย้ำกับตัวเองอีกสักที และคราวนี้ผมจะไม่หนีหัวใจตัวเองอีกแล้ว
“แต่มึงไม่สบาย...”
“จะทำไหม?? ถ้าไม่ทำก็ไม่ต้องทำอีกตลอดชีวิต!!!” กูให้ท่าขนาดนี้ยังมีหน้ามาปฏิเสธกูอีก
“ทำ” จูบดูดดื่มส่งลงมาพร้อมความรู้สึกหลายหลาย ผมก็จะรับรู้ได้ถึงความอบอุ่นที่ควานอยู่ในโพรงปาก
“อื้อ...” ความรู้สึกวาบหวิวเลื่อนตามจุดที่ริมฝีปากสัมผัส ซอกคอ ใบหู หน้าอก และท้องน้อยก่อนจะเลื่อนต่ำลงไปเรื่อยๆ
“อ้า..โจ้” ทำไมผมถึงรู้สึกดีขนาดนี้นะ ไม่เคยรู้สึกมากมายขนาดนี้มากก่อน กางเกงบ๊อกเซอร์ถูกถอดออกอย่างรวดเร็ว หมอนใบเล็กถูกสอดเข้ามาตรงสะโพก ขาข้างนึงถูกยกขึ้นให้เกาะที่เอวนิ้วเรียวถูกสอดเข้ามาพร้อมของเหลวเย็น ผมไม่ในโง่ถึงขนาดที่ผมไม่รู้หรอกว่าสิ่งที่สอดเข้ามาพร้อมกันคืออะไร
“อื้อ..อื้อ..อ๊ะ” ความรู้สึกเสียวแล่นเข้ามาที่ท้องน้อยทันทีที่ไอ้โจ้กดลงที่บางจุด
“ตรงนี้สินะ”
“อ๊ะ..อ๊า..จะ..โจ้..เข้ามาเถอะ..กูไม่ไหวแล้ว..อื้อ..อื้ออออ เบาๆ” ความรู้สึกที่ถูกสิ่งนั้นชำแรกผ่านเข้ามามันเต็มไปด้วยความเจ็บปวด ถึงไม่ได้เจ็บมากเหมือนครั้งแรก แต่ก็ยังสัมผัสได้ถึงความเจ็บอยู่ดี
“เบาๆ..อื้อ” มือผมถูกยกขึ้นยันหน้าท้องโจ้ไว้เพื่อบกคนตรงหน้าให้ค่อยๆแทรกเข้ามาเบาๆ
“ครับ” ผมรู้ว่าโจ้ก็อดทนไม่น้อย สีหน้าเกร็งกับเหงื่อที่ไหลอยู่ที่ไรผม ทำเอาผมอดไม่ได้ที่จะเช็ดให้มัน ก่อนที่รอยยิ้มเล็กๆจะผุดขึ้นที่ริมฝีปาก แล้วริมฝีปากนั่นแหละที่ก้มลงมาจูบที่แก้มผม
“พีมึงกอดคอกูดิ” เรื่องอะไรเล่าถ้าผมกอดคอมันความรู้สึกแนบแน่นมันจะเข้ามามากกว่าเดิม ขอทำใจแป๊บนึงได้ไหมเห็นหน้าหื่นๆของมึงแล้วกูกลัว
“อย่าเบือนหน้าหนีดิพี จับบ่าโจ้ไว้ก็ได้ กูจะขยับแล้วนะ” แล้วจะบอกกูทำไมว่ะ มึงจะขยับก็ขยับเลย ไม่ต้องมาพูดไม่ต้องมาบอก
“อ๊ะ..อ๊า” แรงขยับที่สะโพกทำให้ผมต้องเอื้อมมือไปกอดคอมันไว้อย่างช่วยไม่ได้
“อ่า..”
“อื้อ อื้อ ห้ามมองนะ” ผมยกมือขึ้นปิดสายตาไอ้โจ้ที่ส่งมาให้ผมแต่มันดันเล่นงับนิ้วผมซะงั้นแถมมันยัง
-////////////////-
ดูดนิ้วผมด้วย
ทำไงดี ผมรักมันแล้วจริงๆ ถอนตัวไม่ขึ้นแล้ว
“กูรักมึงโจ้”
O_o
“อ้าาาาห์..”
=_____=
“เชี่ยโจ้!!! มึงแม่งห่วยแตก!!! เอาออกไปเลย” กูจะถึงอยู่แล้วแต่มึงดันแตกขึ้นมากลางคันเนี่ยนะ
“ขอโทษ”
“ขอโทษพ่องงมึงสิ ก่อนหน้านี้ไม่เห็นจะห่วยแบบนี้เลย” แถมแตกแบบไม่ใส่ถุงยางอีก โฮยยย ชีวิตกู= =
“ก็มันดีใจง่ะ ยิ่งตอนที่มึงกอดคอกูแล้วบอกรักกูด้วยสายตาเว้าวอนแบบนั้น กูเขินนนนอ่ะพี” สายตาเว้าวอนอะไรกูยังไม่ได้ส่งไปให้มึงเลยเหอะ
“เขินส้นตีนอะไร ลุกออกไปได้แล้ว”
“ขอแก้ตัวได้ไหม”
“แก้ตงแก้ตัวอะไร ตอนที่มึงถึงกูก็ไปต่อไม่ติดแล้วเถอะ ออกไปได้แล้ว อยากอาบน้ำ”
“โถว พี” ผลั่ก!!! บอกดีๆไม่ชอบ ชอบให้กูถีบตกเตียงก่อนสินะ “วันหลังถ้ามึงทำห่วยขนาดนี้ก็บอกกูดิ เดี๋ยวกูทำให้ดู อ่อนฉิบหาย อย่ามาเกาะเอวกู ปล่อย!!! เชี่ยโจ้ใจหมา กูบอกให้ปล่อยไงเล่า!!!!”
“กูรักมึงพี...”
“กูรู้แล้ววว ปล่อยกูววววววววววววว!!!”
จริงๆผมไม่น่าพลาดไปมีอะไรกับคนจังไรอย่างมันเลยใช่ไหมครับ แต่ก็ช่วยไม่ได้นี่น่า ผมรักมันไปแล้วนิ คนบ้าๆที่เป็นเพื่อนร่วมห้องผมคนนี้
เรื่องราวความรักของผมกับมันเริ่มต้นจากสิ่งที่เห็น ทุกวันนี้พวกเราขึ้นปีสามแล้วก็ยังมีทะเลาะกันบ้างเป็นเรื่องปกติ แต่สิ่งหนึ่งที่ผมกับมันรู้อยู่เต็มหัวใจคือ เรารักกัน
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
สมัครสมาชิก ส่งความคิดเห็น [Atom]
<< หน้าแรก